หน้าแรก บล็อก

รีวิว ร้านข้าวเแกงที่เด็ดที่สุดในย่าน ลาดพร้าว101 | ร้านสถานีแกง 10 บาท

0

ออกเดินทาง จะพาเพื่อนๆ ไปกินข้าวแกงในย่าน ลาดพร้าว101 กับ ร้านที่มีชื่อว่า สถานีแกง 10 บาท
เดี๋ยวเรามาดูกันว่าเด็ดอย่างไรบ้าง…
1. ความพิเศษของร้านนี้ คือ จะตักแกงใส่ถ้วยไว้ เราสามารถหยิบไปทานได้เลย ราคาเพียงถ้วยละ 10 บาท
2. สำหรับข้าวก็จานละ 10 บาท แต่เราสามารถตักทานได้ไม่อั้น ทานกันได้แบบจุกๆ เลย
3. มีบริการน้ำเปล่าฟรี
4. ความอร่อย ให้เต็ม 10 10 10 ไม่หักเลย อร่อยทุกอย่างจริงๆ
5. ความสะอาด และที่นั่งของร้าน โล่ง โปร่ง สบาย โอเคมากๆ

และข้อนี้สำคัญสุด เจ้าของร้านเป็นคนใจดี และใจบุญมากๆ ทำโครงการดีๆ เพื่อสังคมมากมาย และที่ร้านก็มี โครงการดีๆ อย่าง Pay it forward หลายคนให้ …. หลายคนอิ่ม …. “แจกข้าวกล่องฟรีบ่อยๆ กลับไปให้คนในชุมชนลาดพร้าว 101 อีกด้วย ”

สุดท้ายเราก็แค่อยากจะบอกว่า บางทีการทำธุรกิจก็ไม่ได้หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่การช่วยเหลือสังคม และอยู่ร่วมกับสังคม ก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน….

ใครอยู่ย่านลาดพร้าวอยากลองแวะไปซิม พิกัดนี้เลยนะ ลาดพร้าว 101 แยก 11

ร้านสถานีแกง 10 บาท ลาดพร้าว101
084 993 9463
✅️ ร้านเปิดทุกวัน จ-ส เวลา 7:00 – 15:00 น.
🚫 หยุดทุกวันวันอาทิตย์
https://maps.app.goo.gl/KHupWhCsEQFx7L8Y9

📍หากไม่สะดวกมาทานที่ร้าน สามารถสั่งผ่าน Robinhood และ Grab ได้นะ 😊😊😊
สั่งผ่าน Robinhood
http://bit.ly/3E5V6KX

สั่งผ่าน Grab
https://bit.ly/3OkeJDS

ร้านข้าวแกง อร่อย ลาดพร้าว

ร้านข้าวแกง อร่อย ลาดพร้าว

ร้านข้าวแกง อร่อย ลาดพร้าว

ร้านข้าวแกง อร่อย ลาดพร้าว ร้านข้าวแกง อร่อย ลาดพร้าว

ไต้หวัน | ไทเป | เกาสฺยง 7 วัน 6 คืน รวมที่กินที่เที่ยว ที่พัก และตั๋วเครื่องบิน

0

ไต้หวันเปิดแล้ว แถมยังฟรีวิซ่าให้คนไทยอีกตั้ง 14 วัน ไปง่าย มีหลายสายการบินให้บริการทั้ง full service และ Lacost airline ทั้งสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ค่าครองชีพ ค่ากินค่าเที่ยว เทียบกับเมืองไทยถือว่าไม่ต่างกันมาก อาจจะแพงกว่านิดหน่อย แต่ไต้หวันนั้นเจริญมากๆ โดยเฉพาะเมืองไทเป ระบบขนส่งสาธารณะที่นี่ดีมากๆ มีทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟท้องถิ่น รถไฟความเร็วสูง รถบัส ทั้งหมดนี้เดินทางสะดวกมากๆ เอาเป็นว่า ไทเป เป็นเมืองที่พัฒนาแล้วเมืองหนึ่งของโลกนั่นแหละ [ส่วนตัวเราว่าเจริญกว่ากรุงเทพฯ เรานะ] ไทเป มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสมกับจีน ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยนั่นเอง

ไต้หวันไม่ใช่ประเทศ โดยมีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐจีน (อังกฤษ: Republic of China)

ทริปนี้ออกเดินทางจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวไต้หวัน แบบจุกๆ กันยาวๆ 7 วัน 6 คืน กับ 2 เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย อย่าง ไทเป และเกาสฺยง เราได้สรุป เรื่องการเดินทาง โรงแรม และค่าใช้จ่ายทั้งหมด ให้เพื่อนๆ แล้วตามด้านล่างเลย…
ปล. ทริปนี้ 5 วันแรกที่ไทเป ฝนตกทุกวัน ตกจนต้องปักตะใคร้ 55+ ยิ่งตกหนักกว่าเดิม

  • รีวิวสถานที่เที่ยว 1-12
  • รีวิวสถานที่กิน 13 – 17
  • รีวิวโรงแรม 18 – 20

เครื่องบิน

ขาไป กรุงเทพ – ไทเป ด้วยสายการบินไทย
08:15 – 12:45 น.
ค่าใช้จ่าย 6,075 บาท

ขากลับ เกาสฺยง – กรุงเทพฯ ด้วยสายการบินไทยสมาย
17:15 – 19:45 น.
ค่าใช้จ่าย 5,587 บาท

รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ไปและกลับ
จำนวน 11,662 บาท

รถไฟความเร็วสูง

รถไฟความเร็วสูง ไทเป – เกาสุยง [Taipei to Zuoying]
จำนวน 1,681 บาท

โรงแรม

โรงแรม คืนที่ 1-2 และ 4
Caesar Metro Hotel Taipei : ไทเป
โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/RcxwC6n72qb8Fszk6
ราคาต่อคืน 4,400 บาท
ทางไปจอง : https://bit.ly/3Gakl0I
Caesar Metro Hotel Taipei

 

โรงแรม คืนที่ 3
Sunny Room : จิ่วเฟิน
โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/BDH2KXzFTCwJLf3b9
ราคาต่อคืน 2,500 บาท
ทางไปจอง : https://bit.ly/3hJFghY

Sunny Room : จิ่วเฟิน

 

โรงแรม คืนที่ 5-6
Harbour 10 Hotel : เกาสุยง
โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/8zsVEaDMA4A53C1F9
ราคาต่อคืน 2,817 บาท
ทางไปจอง : https://bit.ly/3VbcjJn

ค่าโรงแรมต่อคน 10,667 บาท

ค่ากินค่าเที่ยว

จำนวน 7,000 บาท

ค่าอินเตอร์เน็ต

ซิมการ์ด อินเตอร์เน็ตสำหรับ 7 วัน แบบอันลิมิเต็ด
จำนวน 531 บาท

รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด

รวม ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 31,541 บาท ต่อคน
*** แนะนำให้ไป อย่างน้อย 2 คน จะได้หารค่าโรงแรมกับเพื่อนได้อย่างเพจออกเดินทาง

เริ่มเที่ยวกันเลย

1. ตึก TAIPEI 101

เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ใครมาไทเป ไม่มาที่นี้ถือว่าพลาดมากๆ ตึกนี้มีความสูงถึง 508 เมตร ซึ่งเป็นตึกที่สูงเป็นอันดับที่ 10 ของโลก [ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2022] ปล. ฝนตกทุกวันเลยไม่ได้ขึ้นดูวิวเมืองไทเป ข้างบน

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/mAFwo7rjLc8r653AA

ตึก TAIPEI 101 ตึก TAIPEI 101 ตึก TAIPEI 101

2. วัดหลงซาน [Longshan Temple]

ที่นี่เด่นเรื่องการขอเนื้อคู่ จัดไปเราชาวโสด ขอให้ได้เจอเนื้อคู่เร็วๆ ด้วยเถอะสาธุ

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/nGpx3eKwEpgmYqJg6

วัดหลงซาน [Longshan Temple] วัดหลงซาน [Longshan Temple] วัดหลงซาน [Longshan Temple]

3. Chiang Kai-Shek Memorial

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองไทเป สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงประธานาธิบดีเจียง เจียง ไคเชก

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/25kjcjegj3BDmioVA

Chiang Kai-Shek Memorial Chiang Kai-Shek Memorial Chiang Kai-Shek Memorial

4. Shi-men Ting

แหล่ง กิน/ช็อปปิ้ง และศูนย์รวมวัยรุ่นไทเปยามค่ำคืน ที่ออกมาเดินเล่น ช็อปปิ้งและทำกิจกรรมต่างๆ เค้าว่าเหมือนย่าน ย่านชินจูกุ ของญี่ปุ่นในขนาดที่เล็กลงมา

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/GnEoe4s5sQ4QvcA36

Shi-men Ting Shi-men Ting

จุดถ่ายรูปสุดปัง

  • Rainbow Six : ถนนสายรุ้งหมายเลข 6 ถ่ายรูปปังๆ กับสายรุ่งที่ถูกวาดไว้บนถนน [สถานีรถไฟใต้ดิน Ximen ทางออกที่ 6 ออกมาแล้วเจอเลย]
    โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/4gTYDfsDHC1QRbKBA
    Rainbow Six
  • The Red House : อาคารทรง 8 เหลี่ยมที่โดดเด่นสร้างขึ้นในปี 1908 เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการ มีโรงน้ำชา ตลาด และโรงละคร
    โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/2szqany5Av8ERV9h7
    The Red House

5. Sisinan Village Museum

เป็นจุดถ่ายรูปคู่กับตึก TAIPEI 101 ที่สวยจุดหนึ่ง ตรงนี้เป็นหมู่บ้านของทหารเก่า แต่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนให้เป็น Village Museum จะมีร้านคาเฟ่น่ารักให้เราได้นั่งซิว แต่เราโชคร้ายวันที่ไปฝนตก 55+

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/CX3ezqMjWsUqYwfGA
Sisinan Village Museum 6. Huashan 1914 Creative Park

เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ และสวนพักผ่อนหย่อนใจ

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/HiqBoPqYDDXUjNQVA

Huashan 1914 Creative Park
7. Raohe Night Market

เป็นไนท์มาร์เก็ตชื่อดังของไต้หวัน เป็นแหล่งรวมของกินอร่อยๆ และร้านค้ามากมาย
โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/ZRvJci8BVGsyEXux8

Raohe Night Market Raohe Night Market

8. จิ่วเฟิ่น เมืองโบราณจิ่วเฟิ่น

เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนภูเขาที่ให้ความรู้สึกคล้ายเหมือนมาเที่ยวญี่ปุ่น โดยจะประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงตามทาง ซึ่งตอนกลางคืนสวยงามมาก

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/HqDGm7ddtrrtfha26

จิ่วเฟิ่น จิ่วเฟิ่น

9. Houtong Cat Village

หมู่บ้านแมว ที่มีเหล่าเจ้าเหมียวมากมายคอยตอนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือน

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/5hoDRTxutVkxJ3GD6

Houtong Cat Village

Houtong Cat Village Houtong Cat Village

10. Dragon and Tiger Pagodas [เมืองเกาสฺยง]

เป็นเจดีย์คู่ริมทะเลสาบ มีทางเข้าและออกทางปากมังกรและเสือ ที่มีสีสันสวยงามมากๆ

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/jvAbP6x447SoWPuEA

Dragon and Tiger Pagodas [เมืองเกาสฺยง] Dragon and Tiger Pagodas [เมืองเกาสฺยง]

11. The Pier2 Art Center [เมืองเกาสฺยง]

เป็นแหล่งแสดงศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด รูปปั้น และสิ่งก่อสร้างที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยตั้งอยู่ที่าท่าเรือ

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/QWRuQ4dqa2iHBbZ37

12. Kaohsiung Music Center [เมืองเกาสฺยง]

ในยามค่ำคืนจะมีการแสดงไฟ แสงสี จากตัวอาคาร ที่มีความสวยงามมากๆ แนะนำให้ชมตรงสะพานข้ามแม่น้ำใกล้กับ Kaohsiung Music Center ปังสุด

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/xKARCm5Wg8aBvqVW8

Kaohsiung Music Center [เมืองเกาสฺยง] Kaohsiung Music Center [เมืองเกาสฺยง]

13. Xin Mala Hotpot

ร้านหมาล่า ฮอทพอท บุฟเฟต์ มีทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู ซีฟู๊ด และเบียร์ ราคาดีน่าครบ 902.76 บาท มีหลายสาขาอีกด้วย

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/tEwPHfM6tvWKJqvaA

Xin Mala Hotpot

14. BUNA CAF’E

ร้านอาหารกึ่งคาแฟ มีทั้งกาแฟ ชา และอาหาร ราคาดี และที่สำคัญบริการประทับใจมากๆ มีหลายสาขาอีกด้วย

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/9ezKotgdseU5ASDs6

BUNA CAF'E

15. ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

อาหารขึ้นชื่อของใต้หวันอีกอย่าง คือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ่นด้วยสมุนไพรจีน เนื้อนุ่ม อร่อยมาก ๆ

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/GGwkpVWYYtZjciD67

16. VWI BY CHADWANG

ร้านกาเฟดี ที่เจ้าของร้านดีกรีแชมป์เก่าบาริสต้าของโลก

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/3VpKWuakaN5DdBm2A

VWI BY CHADWANG

17. PAMMA COFFEE [เมืองเกาสฺยง]

ร้านกาแฟ ที่มีดีทั้งรสชาติ และโลเคชั่น โดยตั้งอยู่ที่ริมทะเลสาบในเมือง เมืองเกาสฺยง

โลเคชั่น :https://goo.gl/maps/RXaXhAEJyeispWkU8

18. Caesar Metro Hotel Taipei

โรงแรม 5 ดาว โลเคชั่นดี ใกล้กับวัดหลงซาน โดยโรงแรมห่างจาก MRT ประมาณ 300 เมตร

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/RcxwC6n72qb8Fszk6

ราคาต่อคืน 4,400 บาท

ทางไปจอง : https://bit.ly/3Gakl0I

Caesar Metro Hotel Taipei Caesar Metro Hotel Taipei

19. Sunny Room : จิ่วเฟิน

โรงแรมนี้ราคาดี วิวดี ห้องกว้าง เจ้าของน่ารัก แต่เดินมามาเมืองโบราณจิ่วเฟินไกลหน่อย แต่เดินได้สบายๆ

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/BDH2KXzFTCwJLf3b9

ราคาต่อคืน 2,500 บาท

ทางไปจอง : https://bit.ly/3hJFghY

Sunny Room : จิ่วเฟิน Sunny Room : จิ่วเฟิน Sunny Room : จิ่วเฟิน
20. Harbour 10 Hotel : เกาสุยง

โรงแรม 4 ดาว อาหารเช้า อร่อย ห้องพักสะอาด เตียงนุ่มสบาย ห่างจาก Tram ประมาณ 400 เมตร แต่เดินสบาย ชิวๆ

โลเคชั่น : https://goo.gl/maps/8zsVEaDMA4A53C1F9

ราคาต่อคืน 2,817 บาท

ทางไปจอง : https://bit.ly/3VbcjJn

Harbour 10 Hotel : เกาสุยง Harbour 10 Hotel : เกาสุยง

เล่าให้ฟัง : EP​ 5 “Growth Mindset : ความคิดแบบเติบโต”

0

เล่าให้ฟัง : EP​ 5 “Growth Mindset : ความคิดแบบเติบโต”
เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน

วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับความคิด และอยากให้เพื่อนๆ ค่อยๆ มองภาพตามนะครับ และถ้ามีประโยชน์ลองนำไปปรับใช้นะครับ

Fixed Mindset ความคิดแบบยึดติด คือ คนที่มักหลีกเลี่ยงปัญหา หลีกเลี่ยงอุปสรรค และกลัวความล้มเหลว

Growth Mindset ความคิดแบบเติบโต คือ มองปัญหาเป็นโอกาสในการเรียนรู้ หรือมองปัญหาเป็นความท้าทาย

จากตรงนี้จะขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์จริง

ตั้งแต่จำความได้ เราเป็นคนที่กลัวกับปัญหา หลีกเลี่ยงปัญหา และกลัวความล้มเหลวมาก จนไม่ค่อยได้ทำอะไรใหม่ๆ และไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิตเลย

จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เราเริ่มเปลี่ยนความคิด โดยนำมาปรับใช้กับการทำธุระกิจของเรา
จากที่เคยคิดว่าเราทำไม่ได้ ไม่ทำดีกว่า –> มาเป็น ถ้าเราทำมันอย่างน้อยก็ คือ ประสบการณ์ และเราได้เรียนรู้ ไม่ว่ามันจะสำเร็จ หรือไม่สำเร็จอย่างน้อยเราก็ได้ลงมือทำมันแล้ว

ผลจากการที่เราปรับความคิด แบบ Fixed Mindset —> Growth Mindset มันเริ่มเห็นผล ธุรกิจของเราเริ่มมียอดขาย จากกำไรหลักพันต่อเดือน มาเป็นหลักหมื่น และแตะหลักแสนต่อเดือนในที่สุด

เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ ขอให้ทุกๆ วันของเพื่อนๆ เป็นวันที่ดี

เล่าให้ฟัง : EP​ 4 ” People Management ” อยากโตต้องให้คนอื่นทำงานแทนเราให้เป็น

0

เล่าให้ฟัง : EP​ 4 ” People Management ”
อยากโตต้องให้คนอื่นทำงานแทนเราให้เป็น

วันนี้ได้มีโอกาสไปนั่งดื่มกาแฟกับเพื่อน พร้อมพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ การใช้ชีวิต การทำงาน การทำธุระกิจ การออกกำลังกาย จนมาถึงประเด็นเรื่องของการบริหารคน ต่างแชร์ความคิดเรื่องนี้กันอย่างเต็มที จนสรุปประเด็นได้ว่า
“อยากโตต้องให้คนอื่นทำงานแทนเราให้เป็น”
ไม่ว่าจะเป็นการทำธุระกิจ หรือการทำงานประจำ สิ่งนี้มีความสำคัญมาก แต่วันนี้จะขอมาพูดในแง่มุมของการทำธุระกิจนะครับ
เราทำธุรกิจ มาสักพักใหญ่ๆ พยายามบริหารเวลาอย่างเต็มที ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่ธุรกิจของเราก็ไม่โตสักที จนเราได้ข้อสรุปว่า น่าจะเป็นเพราะเราทำทุกอย่างคนเดียว เน้นว่าทำคนเดียว ตั้งแต่เป็นแอดมิน พนักงานแพ็คของ พนักงานส่งของ พนักงานเช็คสต็อค พนักงานบัญชี บอกเลยว่า เหนื่อยสุด ทำเป็นทุกอย่าง และทำได้ดีทุกอย่าง เพื่อนๆ อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่ามันก็ดีอยู่แล้วนิ แล้วทำไมธุรกิจถึงยังไม่โตสักที
คำตอบ คือ เราเอาเวลาทั้งหมดของเราไปทำงานเดิมๆ จนไม่มีเวลาไปคิดสิ่งใหม่ๆ
ทางรอด คือ เราต้องจ้างคนอื่นให้มาทำงานแทนเราให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น พนักงานแพ็คของ พนักงานส่งของ พนักงานเช็คสต็อค พนักงานบัญชี แล้วเราก็แค่บริหารคนในธุรกิจของเราให้ได้
เพื่อที่จะได้…
เอาเวลาที่มีในแต่ละวัน ไปคิดวางแผน และลงมือทำ หาไอเดีย หาธุรกิจ แตกยอดธุระกิจใหม่ๆ ที่จะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตขึ้น
มาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่าเราก็ยังไม่หลุดพ้นจากวงจรนี้ ยังไงฝากเพื่อนๆ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ ให้เราก้าวข้ามผ่านจุดนี้ไปให้ได้

เล่าให้ฟัง : EP​ 3 ” ออกเดินทาง “

0

เล่าให้ฟัง : EP​ 3 ” ออกเดินทาง ”

การออกเดินทาง​ หรือการพาตัวเองไปสถานที่ใหม่ๆ​ เจอสิ่งใหม่ๆ​ เจอผู้คนใหม่ๆ​ เพื่อพักผ่อน​ ชาร์จ​แบต​ และเป็นประสบการณ์​ชีวิตที่ดี
อีกทั้งยังช่วยให้เรามีไอเดียใหม่ๆ​ ในการทำงาน​ หรือการทำธุระกิจ​อีกด้วย​
บางครั้งการออกเดินทาง​ก็ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น​ เพราะ​ฉะนั้นถ้ารู้สึกว่าตัวเอง​ down ไม่สบายใจ​ หรือเริ่มมีอาการซึมเศร้า​ การออกเดินทางก็อาจจะเป็นทางเลือกในการเยียวยาใจ​ และร่างกายที่ดีเช่นกัน

เล่าให้ฟัง : EP 2 “Social Media Detox” ลดการเล่นโซเชียลมีเดีย

0

เล่าให้ฟัง : EP 2
“Social Media Detox” ลดการเล่นโซเชียลมีเดีย

ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาเรารู้สึกว่า การทำงานของเราไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ได้งานเป็นชิ้นเป็นอัน เราเลยลองกลับมาสังเกตุตัวเองว่า เป็นเพราะอะไร จนในที่สุดก็พบว่าตัวเองเล่นโซเชียลมีเดียในแต่ละวันเยอะมาก น่าจะไม่ต่ำกว่าวันละ 5 ชั่วโมง และงานของเราเป็นงานขายของออนไลน์ เทรดเดอร์ บล็อกเกอร์ ที่ต้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือทั้งวัน ทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงานต่างๆ และไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เราจึงลองลดการเล่นโซเชียลมีเดียลง ไม่ว่าจะเป็น FB IG TIKTOK โดยจะเข้ามาเช็คแค่เป็นช่วงเวลาเท่านั้น และปิดการแจ้งเตือนโซเชียลมีเดียทั้งหมด
ผลที่ได้ คือ เราได้โปรเจคใหม่ เป็นโปรเจค 10X ดีใจมาก
ดีใจที่สุด ขอให้โปรเจคนี้สำเร็จ สาธุ
เราจะทำอะไรต่อ เรามีโปรเจคอะไร เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟัง ใน EP หน้านะครับ

เล่าให้ฟัง : EP 1 “Multitasking ทำหลายอย่างพร้อมกัน”

0

เล่าให้ฟัง : EP 1
“Multitasking ทำหลายอย่างพร้อมกัน”

ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่เราอายุน้อยกว่า 30 ปี เราสามารถทำหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ ไม่เคยมีปัญหา และทุกอย่างออกมาดี แต่ปัจจุบันตอนนี้อายุ 35 แล้ว บอกเลยว่าจะทำอะไรต้องทำทีละอย่าง แสดงว่าอายุมีผลต่อสมอง และประสิทธิภาพของการทำงานที่ลดลง

แล้วเราจะมีวิธีการจัดการกับมันอย่างไร ?

สำหรับเรา จะให้ความสำคัญกับการวางแผนการทำงาน และการใช้ชีวิตในแต่ละวัน และในแต่ละสัปดาห์มากๆ โดยเราจะเอางานที่ต้องใช้ความคิด งานเขียน งานวิเคราะห์มาทำตอนเช้า ส่วนงานที่ต้องทำประจำ(งานรูทีน) จะเอาไปทำตอนบ่าย แล้วต้องทำงานให้เสร็จตาม Plan ในทุกๆ วัน

และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ต้องพาตัวเองไปพักผ่อน ท่องเที่ยวอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อชาร์ตแบต เติมไฟ ให้เรามีพลังในการทำงานหาเงินต่อไป

รีวิว The Ordinary ตัวไหนดี ปี 2022

0

วันนี้ออกเดินทาง ขอเปลี่ยนจากรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวมารีวิวครีม/เซรั่ม กันบ้างครับ เพื่อนๆ หลายคนน่าจะรู้จัก หรือเคยได้ยินแบรด์นี้กันมาบ้างแล้ว นั่นคือ แบรนด์ The Ordinary เป็นแบรด์ของประเทศแคนาดา แต่เป็นที่รู้จักกันมากมายทั่วโลก ด้วยการวางตำแหน่งของแบนด์ตัวเองเป็นแบนด์ราคาไม่แพง จับต้องได้ และมีคุณภาพไม่แพ้เซรั่ม/ครีม ของเค้าเตอร์แบรนด์ต่างๆ ทำให้มีคนนิยมใช้กันเป็นจำนวนมาก โดยแบรนด์จะนำ active ingredient มาตั้งเป็นชื่อของสินค้า ทำให้เพื่อนๆ หลายคนงง กันไปตามๆ กัน ว่าสินค้าแต่ละตัวช่วยบำรุง / รักษา / ฟื้นฟู ผิวหน้าของเราด้านไหนบ้าง และมีคุณสมบัติอย่างไร วันนี้ออกเดินทางมีคำตอบมาให้เพื่อนๆ แล้ว เดี๋ยวตามไปดูกันเลย

The Ordinary 10 สูตร ที่คนนิยมใช้มากที่สุด

  1. The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%
    The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%
    มาเริ่มต้นกันที่ตัวแรกกันเลย ตัวนี้เป็นตัวที่มีคนนิยมใช้มากที่สุด ด้วยราคาของน้องนั้นถูกที่สุด ทำให้เข้าถึงง่ายจับต้องได้ง่ายและมี active ingredient ที่น่าสนใจมากๆ โดยตัวนี้จะมีส่วนประกอบหลัก คือ Niacinamide ซึ่งใส่มาให้เยอะถึง 10 % และ Zinc ที่ใส่มาให้ 1 % เดี๋ยวเราไปว่าสารประกอบทั้ง 2 มีประโยชน์กับผิวของเรายังไงกันบ้าง
    Niacinamide
    หรืออาจจะรู้จักในชื่อ วิตามินบี 3 (Vitamin B3) ซึ่งเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวเรามากๆ เช่น ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว ลดรอยดำรอยแดงจากสิว และช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมากๆ อีกทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขน ปรับผิวเรียบเนียน และปรับผิวให้ดูสว่างขึ้นด้วย
    Zinc
    หรือที่รู้จักกันในชื่อ สังกะสี (Zinc-ซิงค์) ช่วยลดการเกิดสิว และช่วยรักษาสิวอักเสบ โดยจะไปช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวจากการอุดตันของไขมัน
    สรุปคุณสมบัติ
    ช่วยลดการเกิดสิว ปรับสีผิวให้สว่างขึ้น ลดรอยแดงรอยดำจากสิว กระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง ลดเลือนริ้วรอย ปรับผิวเรียบเนียน อีกทั้งยังควบคุมความมันบนใบหน้า
  2. The Ordinary AHA 30% + BHA 2% Peeling Solution
    The Ordinary AHA 30% + BHA 2% Peeling Solution
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary AHA 30% + BHA 2% Peeling Solution
    มาถึงตัวที่สองกันเลย จริงๆ ตัวนี้เป็นตัวที่ขายดี สูสีกับตัวแรกมากๆ น้องมีชื่อเล่นด้วย จะรู้จักกันในนาม “มาร์คแดง” หรือ “มาร์คเลือด” ทีเด็ดของตัวนี้ คือ เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ทำให้หน้าสว่างขึ้น กระจ่างใสขึ้น ทันที ถ้าใช้ตัวนี้ต้องใช้กันแดดด้วยนะ และกันแดดที่ดีต้องทา 2 ข้อนิ้ว แล้วหน้าไม่ลอย ฮ่า ฮ่า เดี๋ยวเราไปดูส่วนผสมหลักของตัวนี้เลย นั่นคือ AHA และ BHA ทั้งสองตัวเป็น active ingredient ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เดี๋ยวไปดูกันต่อดีกว่าว่า สองตัวนี้มีคุณสมบัติอะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร
    AHA
    ชื่อเต็ม คือ Alpha Hydroxy Acid คนรู้จักในนาม เอเอชเอ หรือ AHA เป็นกรดที่ละลายในน้ำได้ดี แต่ไม่ชอบน้ำมัน(รูขุมขนมีน้ำมัน) ซึ่งจะช่วยผลัดเซลล์ผิวด้านนอกสุดได้ดีมากๆ คุณสมบัติหลักของ AHA คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป (Exfoliate) ทำให้ผิวกระจ่างใส ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้ชั้นผิว เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ ตัวอย่างได้แก่ Glycolic Acid, Lactic Acid และ Mandelic Acid
    BHA
    ชื่อเต็ม คือ Beta Hydroxy Acid คนรู้จักในนาม บีเอชเอ หรือ BHA เป็นกรดที่ละลายในไขมัน ทำให้ลงไปในรูขุมขนได้ดี คุณสมบัติหลักของ BHA คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป (Exfoliate) โดยเฉพาะในรูขุมขน จึงทำให้ลดการอุดตันของไขมันที่มีผลต่อการเกิดสิวอุดตัน ตลอดจนช่วยลดสิวอุดตัน ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการอักเสบและอาการแดงของผิว อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำอีกด้วย ตัวอย่างได้แก่ Salicylic Acid
    สรุปคุณสมบัติ
    ช่วยผลัดเซลล์ผิวหน้า ลดการเกิดสิวและลดสิวอุดตัน ลดรอยแดงรอยดำและจุดด่างดำจากสิว ปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสและสีผิวสม่ำเสมอ อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
  3. The Ordinary Alpha Arbutin 2% + HA
    The Ordinary Alpha Arbutin 2% + HA
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary Alpha Arbutin 2% + HA
    มาถึงตัว Top ของแบนด์ตัวที่ 3 กันบ้าง ตัวนี้มีสารประกอบในกลุ่มของไวท์เทนนิ่ง นั่น คือ Alpha Arbutin ซึ่งแน่นอนว่าช่วยทำให้หน้าขาว และยังช่วยทำให้ ฝ้า กระ ดูจางลง และยังมี HA ที่ช่วยเรื่องเพิ่มความชุมชื่นให้แก่ผิว เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดของ active ingredient หลักกันดีกว่า
    Alpha Arbutin
    คือ สารที่สกัดได้จากพืช โดยอัลฟ่า อาบูติน จะทำหน้าที่หยุดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่เป็นเหตุทำให้สีผิวคล้ำนั่นเอง จุดเด่นของ Alpha Arbutin ได้แก่ ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้ขาวใสสม่ำเสมอ ปลอดภัยไม่ทำให้ผิวบาง
    HA
    ชื่อเต็ม คือ (Hyaluronic acid : HA) หรือ สารไฮยารูรอน เป็นสารที่ร่างกายผลิตได้เอง แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นสารนี้จะถูกผลิตได้ช้าและน้อยลง สารนี้มีความสำคัญมากเพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ทำให้ผิวอิ่มฟู ปรับผิวเรียบเนียน และลดริ้วรอย
    สรุปคุณสมบัติ
    ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ฝ้า กระ จุดด่างดํา และทำให้ผิวขาวสว่างสดใส อีกทั้งยังทำให้หน้านุ่มชุ่มชื่น
  4. The Ordinary “Buffet”
    The Ordinary “Buffet”
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary “Buffet”
    มาดูตัวต่อไปกันเลยครับ ตัวนี้ชื่อก็บอกว่า Buffet เพราะฉะนั้นใช้ตัวเดี๋ยวเอาอยู่ เหมาะกับคนที่ขี้เกียจทาเซรั่ม หรือครีมหลายๆ ตัว ซึ่งคุณสมบัติเด่นของตัวนี้เค้าเป็น เปปไทด์ ที่ช่วยเรื่องของการลดริ้วรอย และช่วยเรื่องความใสของผิวหน้า เดี๋ยวมาดู active ingredient หลักของตัวนี้กันเลยครับ ได้แก่ Matrixyl Peptide, Synthe’6™ Peptide, SYN™-AKE Peptide, ARGIRELOX Peptide, Postbiotic, Amino acids และ Hyaluronic แต่ละตัวมีประโยชน์อย่างไรตามมาดูกันเลย
    Matrixyl Peptide : ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวแข็งแรง
    Synthe’6™ Peptide : ช่วยลดเลือนริ้วรอยโดยเฉพาะ Fine line และ Wrinkle
    SYN™-AKE Peptide : มีฤทธิ์ทำงานคล้ายโบท็อก ส่งผลให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น
    ARGIRELOX Peptide : ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและหน้าผาก
    Postbiotic : เป็นจุลินทรีย์ชนิดดี ช่วยทำให้ผิวแข็งแรง และป้องกันผิวเสียจากมลภาวะ อีกทั้งช่วยลดการเกิดสิว และอ่อนโยนต่อผิวมาก
    Amino acids : ช่วยซ่อมแซมและบำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น ผิวเด้งเต่งตึง อิ่มฟู นุ่มเนียนสุดๆ และยังช่วยให้ใบหน้าโกลว์ขึ้น กระจ่างใสดูสุขภาพดี อีกทั้งยังช่วยลดอาการคันจากการแพ้ของผิว รวมถึงลดรอยแดงจากสิวอีกด้วย
    Hyaluronic : เติมน้ำให้ผิว และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว
    สรุปคุณสมบัติ
    ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ทั้งรอยตื้นและรอยลึก ช่วยลดรอยด่างดำ ความหมองคล้า และช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวแข็งแรง และยกกระชับผิว ปรับผิวเรียบเนียน อีกทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวอีกด้วย
  5. The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5
    The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5
    ด้วยกระแสของ “ไฮยา” มาแรงมากๆ ในเมืองไทย จึงทำให้เป็นสินค้าอีกตัวสุดฮิตของแบรนด์ไปโดยอัตโนมัติ แต่ Hyaluronic Acid ของแบรนด์ The Ordinary นั้นมีความแตกต่างและได้เปรียบกว่าแบรนด์อื่นๆ ตรงที่ให้ความเข้มข้นมาถึง 2 % ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมากๆ สำหรับ active ingredient หลักของตัวนี้ประกอบด้วย 2 ตัว คือ Hyaluronic Acid และ Vitamin B5 ตามมาดูประโยชน์กันต่อเลยดีกว่า
    Hyaluronic Acid
    กรดไฮยาลูโรนิก (HA) เป็นตัวประสานความเชื่อมต่อระหว่างชั้นผิวหนังแท้ (dermis) โปรตีนคอลลาเจน และอีลาสตินเข้าด้วยกัน ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น เต่งตึง ปราศจากริ้วรอย ดูเรียบเนียน และเป็นตัวช่วยในการนำสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิว
    Vitamin B5
    วิตามิน บี 5 ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวและเป็นเกราะป้องกันผิว อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบของผิว และช่วยลดรอยแดงจากสิว ตลอดจนช่วยลดอาการคัน และอาการแพ้ของผิวได้ดีอีกด้วย
    สรุปคุณสมบัติ
    ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้ง ป้องกันการเกิดริ้วรอย ปรับผิวให้มีความยืดหยุ่น เต่งตึง เรียบเนียน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกรองรังสี UV และเป็นตัวช่วยในการนำสารอาหารเข้าสู่เซลล์ผิวอีกด้วย
  6. The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG
    The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG
    ตัวนี้ชื่อแปลกสุดๆ คาเฟอีน ต้องบอกก่อนว่าตัวนี้ก็ยังเป็นเซรั่มและใช้การทานะครับ ไม่ใช่ดื่ม ไม่ใช่กาแฟ ฮ่า ฮ่า นอกจากสารสกัดจากกาแฟแล้ว ตัวนี้ยังมีสารสกัดจากใบชาเขียวอีกด้วย โดย active ingredient หลักนั่นก็ คือ Caffeine และ EGCG โดยงานวิจัยพบว่า สามารถช่วยลดอาการบวมและความหมองคล้ำในบริเวณรอบดวงตา อีกทั้งยังสามารถลดเซลลูไลท์บริเวณรอบดวงตาได้ดีอีกด้วย
    Caffeine : เป็นสารสกัดที่ได้จากกาแฟ (คาแฟอีน)
    EGCG : Epigallocatechin Gallatyl Glucoside เป็นสารสกัดบริสุทธิ์จากใบชาเขียว
    สรุปคุณสมบัติ
    ช่วยกระชับผิวและลดอาการบวมบริเวณใต้ดวงตา อีกทั้งยังช่วยลดความหมองคล้ำและปรับผิวบริเวณรอบดวงตาให้ดูสว่างขึ้นอีกด้วย
  7. The Ordinary Azelaic Acid Suspension 10%
    The Ordinary Azelaic Acid Suspension 10%
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary Azelaic Acid Suspension 10%
    มาต่อกันกับตัวที่ 7 ตัวนี้น้องชื่อ Azelaic Acid จากชื่อหลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อน้องสักเท่าไร น้องจัดอยู่ในกลุ่มของไวท์เทนนิ่งที่ช่วยทำให้หน้าขาวใส ตัวนี้เป็นลูกรักของสาวๆ หลายๆ คน ด้วยน้องเป็นครีมเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมง่าย ซึมไว สำหรับ active ingredient ก็ตามชื่อเลย Azelaic Acid และใส่มาให้มากถึง 10 % เดียวไปดูกันต่อว่าสารประกอบนี้ได้มาจากอะไร
    Azelaic Acid
    กรดอะซีลาอิก สามารถสกัดได้จากเมล็ดพืชอย่างข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี และข้าวไรย์ โดยมีประโยชน์ช่วยบำรุงผิวหน้าหลายๆ ด้านได้แก่ ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ละลายสิวอุดตัน ลดรอยดำ และการอักเสบของสิว ช่วยรักษาฝ้าและรอยดำได้ดีในเคสของผู้ที่มีเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ
    สรุปคุณสมบัติ
    ลดเลือนรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว จุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสขึ้น ลดสิวอุดตัน และยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ที่สำคัญอ่อนโยนต่อผิวมาก
  8. The Ordinary Vitamin C Suspension 23% + HA Spheres 2%
    The Ordinary Vitamin C Suspension 23% + HA Spheres 2%
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary Vitamin C Suspension 23% + HA Spheres 2%
    มาถึงตัวต่อไป นั่นคือ วิตามินซี สำหรับ Vitamin C ของแบรนด์ The Ordinary มี 2 ประเภท นั่น คือ Ascorbic Acid และ Vitamin C Derivatives แต่วันนี้ยกให้ตัว Vitamin C Suspension 23% + HA Spheres 2% (วิตามินซี Ascorbic Acid) เป็นตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุด ด้วยราคาของน้องที่ถูกที่สุดในกลุ่มของวิตามินซีด้วยกัน และยังมีความเข้มข้นมากๆ ให้มาถึง 23 % รับรองว่าถูกใจสาวๆ หลายๆ คนอย่างแน่นอน เพราะขาวไวมากๆ ใครที่ใช้วิตามินซี อย่าลืมหาครีมกันแดดมาทาด้วยนะ
    Ascorbic Acid
    เป็นวิตามินซีที่ไม่ได้ปรุงแต่งใดๆ มีคุณสมบัติหลักๆ คือ ช่วยลดจุดด่างดำ ลดริ้วรอย และมีการต้านอนุมูลอิสระ แต่ข้อเสียคือ ซึมเข้าผิวยาก เสื่อมสลายง่ายไม่ค่อยคงทน
    HA
    ชื่อเต็ม คือ (Hyaluronic acid : HA) หรือ สารไฮยารูรอน เป็นสารที่ร่างกายผลิตได้เอง แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นสารนี้จะถูกผลิตได้ช้าและน้อยลง สารนี้มีความสำคัญมากเพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ทำให้ผิวอิ่มฟู ปรับผิวเรียบเนียน และลดริ้วรอย
    สรุปคุณสมบัติ

    ช่วยให้ผิวขาวสว่างกระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
  9. The Ordinary Retinol 0.2% in Squalane
    The Ordinary Retinol 0.2% in Squalane
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary Retinol 0.2% in Squalane
    มาถึงตัวที่เราชอบมากๆ ถ้าให้เราเลือก active ingredient ได้เพียงแค่ตัวเดียวบนโลกนี้เราของเลือก Retinol (วิตามิน A) เพราะเรตินอล มีคุณสมบัติดีๆ มากมาย เช่น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวกระจางใส เรียบเนียบ ลดริ้วรอย แม้กระทั้งช่วยลดสิวอุดตันและสิวอักเสบอีกด้วย สำหรับแบรด์ The Ordinary มี เรตินอล อยู่ 3 ระดับความเข้มข้น นั่นคือ Retinol 0.2% , Retinol 0.5% และ Retinol 1% สำหรับสาวๆท่านใดที่ยังไม่เคยใช้เรตินอลมาก่อนแนะนำเริ่มจากความเข้มข้นต่ำๆ ก่อน นั่นคือ Retinol 0.2% หลังจากนั้นค่อยขยับมาเป็น Retinol 0.5% หรือ Retinol 1% ได้เลย สำหรับ active ingredient หลักของสินค้าตัวนี้ คือ Retinol และ Squalane
    Retinol
    เรตินอล คือ อนุพันธ์วิตามินเอ (วิตามิน A) โดยเป็นสาร Antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน และรูขุมขนดูกระชับขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดสิวอุดตัน และลดสิวอักเสบอีกด้วย ข้อควรระวัง คือ เรตินอล อาจทำให้ผิวแห้ง ลอก และเกิดการระคายเคืองได้
    Squalane
    เป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอวัย
    สรุปคุณสมบัติ
    ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้รอยต่างๆ ดูตื้นขึ้น ปรับผิวให้เรียบเนียน กระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง หน้ากระจ่างใส สีผิวดูสม่ำเสมอ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการอักเสบของสิวได้อีกด้วย
  10. The Ordinary 100% Organic Cold Pressed Rose Hip Seed OilThe Ordinary 100% Organic Cold Pressed Rose Hip Seed Oil
    สนใจสั่งซื้อคลิ๊กที่รูปสินค้า หรือคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง
    The Ordinary 100% Organic Cold Pressed Rose Hip Seed Oil
    มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้ว เอาใจคนที่ชอบ Oil กันบ้าง ตัวนี้เป็นน้ำมันสกัดเย็นแบบออร์แกนิกที่ได้จากเมล็ดดอกกุหลาบบริสุทธิ์ 100% (Rose Hip Seed Oil) ซึ่งอุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก (linoleic acid) กรดลิโนเลนิก (linolenic acid) และโปรวิตามินเอ (pro-vitamin A) ที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส พิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ต้านการอักเสบ ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
    สรุปคุณสมบัติ
    ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ต้านการอักเสบ ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ

ก็จบกันไปแล้ว กับการรีวิวเซรั่ม/ครีมแบนด์ The Ordinary ที่ยอดนิยม ทั้ง 10 ตัว ใครชอบตัวไหนอยากลองตัวไหนสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้จากช่องทางด้านล่างเลยนะครับ

LINE : @INTOMYSHOP
FB : อิน ทูมาย ช็อป
IG : INTOMYSHOP
www.intomyshop.net

ขั้นตอนการลงสกินแคร์แบรนด์ The Ordinary ที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของการบำรุงผิว

0

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ วันนี้เราจะมาพูดเรื่องความสวย ความงามกันบ้างดีกว่าครับ เพื่อนๆ เคยมีปัญหาเกี่ยวกับลงสกินแคร์กันบ้างหรือเปล่าครับ บางครั้งเรามีสกินแคร์อยู่หลายตัวที่ต้องใช้เพื่อช่วยบำรุงผิวหน้า แต่ก็งงทุกครั้งว่าจะต้องใช้อะไรก่อนหลัง เดี๋ยววันนี้ เรามาช่วยแนะนำเพื่อนๆ ให้สามารถลงสกินแคร์ตัวโปรดของเพื่อนๆ ได้อยากถูกต้องเพื่อประโยชน์สูงสุดของการบำรุงผิว โดยจะของยกตัวอย่างสกินแคร์แบรนด์ The Ordinary นะครับ เพราะเค้ามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากๆ ไปเริ่มกันเลย

ลำดับการลงสกินแคร์แบรนด์ The Ordinary
ขั้นตอนการใช้ครีมที่ถูกต้อง

โดยหลักการง่ายๆ คือ ให้ลงผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบาก่อน และที่สำคัญไม่ควรใช้เกิน 3 ตัวในแต่ละครั้งของการใช้ (ไม่ร่วมครีมกันแดด)

ขั้นตอนที่ 1 ทำความสะอาดใบหน้าด้วย Cleanser
สำหรับแบนด์ The Ordinary จะมีตัว Cleanser ที่ชื่อว่า The Ordinary Squalane Cleanser

ขั้นตอนที่ 2 ลงเซรั่มน้ำ (Water-based Serums)
สำหรับแบนด์ The Ordinary จะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็น Water-based Serums ค่อนข้างเยอะ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าลงตัวให้ก่อน – หลัง ? เราขอแนะนำแบบนี้ ให้ดูว่าเรามีความต้องการดูแลผิวด้านไหนเป็นหลักให้ลงเซรั่มตัวนั้นก่อน ตามลำดับ ซึ่งโดยปกติเราควรทิ้งระยะในการลงเซรั่มประมาณ 1 นาที เพื่อให้เซรั่มซึมลงผิวของเราก่อน แล้วค่อยลงตัวต่อไป
* ข้อควรระวัง คือ ไม่ควรนำมาผสมกันแล้วทาพร้อมๆ กัน
ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่เป็น Water-based Serums

ขั้นตอนที่ 3 ลงเซรั่มสำหรับตา (Eye Serums)
ซึ่งผลิตภัณฑ์แบนด์ The Ordinary มีเพียงตัวเดียว คือ The Ordinary Caffeine Solution 5% + EGCG

ขั้นตอนที่ 4 ลงเซรั่ม Anhydrous Solutions
สำหรับ Anhydrous Solutions นั่นคือ เซรั่มที่ปราศจากน้ำ ในบางผลิตภัณฑ์จะใช้ Squalene หรือ Propanediol เป็นเบสหลักของเซรั่มนั่นเอง โดยแบรนด์ The Ordinary จะมีผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 5 ลงออยเซรั่ม (Oils Formulations)
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นออยเซรั่มประกอบด้วย

ขั้นตอนที่ 6 ลงครีม (Creams)
ไม่มีผลิตภัณฑ์แบรด์ The Ordinary ที่เป็นครีม

ขั้นตอนที่ 7 ลง Suspensions
สำหรับแบรนด์ The Ordinary มีผลิตภัณฑ์ที่เป็น Suspensions ดังนี้

ขั้นตอนที่ 8 ขั้นสุดท้าย ลงครีมกันแดด (SPF)

 

นอกจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีบางส่วนที่ไม่เข้าพวกสามารถสรุปได้ดังนี้
กลุ่มมาร์คหน้า ซึ่งใช้หลังจากที่ทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จ ได้แก่

กลุ่ม Emulsion ซึ่งจะมีการใช้ที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

กลุ่ม Powder ซึ่งจะต้องใช้ผสมกับเซรั่มตัวอื่น


หากเพื่อนๆ สนใจสินค้าแบรนด์ The Ordinary สามารถดูข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.intomyshop.net

การขโมยข้อมูลบัตรเครดิต/บัตรเดบิต

0

ปัจจุบันทั้งเมืองไทยและทั่วโลกมีการใช้เงินสดน้อยลงมากๆ แล้วถ้าผู้คนไม่ใช้เงินสด พวกเค้าใช้อะไรเพื่อแลกกับสิ่งของ สินค้า และบริการ วันนี้ออกเดินทางจะเล่าให้ฟัง

พวกเราคงเคยได้ยินกันว่า ประเทศเราจะเป็นผู้นำด้านการเงิน และการธนาคารของโลก โดยใช้คำว่า “สังคมไร้เงินสด” โดยในบ้านเรามีการใช้ระบบต่างๆ เช่น
1. บัตรเครดิต/บัตรเดบิต ทั้งการทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์และออพไลน์ การรูดบัตร การเสียบบัตร หรือแตะบัตรเพื่อจ่าย
2. Wallet ของผู้ให้บริการต่างๆ เช่น เป๋าตัง TrueMoney ShopeePay เป็นต้น
3. QR Code หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ พร้อมเพย์ (PromptPay)

โดยวันนี้เราจะมาเจาะลึกในส่วนของการใช้บัตรเครดิต/บัตรเดบิต และการขโมยข้อมูลบัตรเครดิต/บัตรเดบิต กันนะครับ การขโมยข้อมูลบัตรฯ ทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุดและผู้เสียหายไม่ได้ระมัดระวังตัว คือ การใช้โทรศัพท์มือถือที่มีระบบ NFC ในการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต

วิธีการ คือ เมื่อคนร้ายเห็นเยื่อก็จะทำการเปิดระบบบนมือถือ แล้วเดินไปใกล้ผู้เสียหาย โดยนำโทรศัพท์ไปทาบใกล้ๆ กับกระป๋าสตางค์ที่คิดว่ามีบัตรเครดิตอยู่ หลังจากนั้นคนร้ายก็จะได้ข้อมูลของบัตรเครดิตไปได้อย่างง่ายได้ โดยที่เราไม่รู้ตัว แล้วนำไปใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ

วิธีป้องกัน คือ ต้องใช้กระเป๋าที่ป้องกันการอ่านข้อมูลบัตร หรือ ที่เรียกว่า RFID Blocking

มาดูวีดีโอ การขโมยข้อมูลบัตรเดดิตด้วยมือถือกันครับ
ออกเดินทางไปเจอสินค้าตัวหนึ่งที่ช่วยป้องกันปัญหาการขโมยข้อมูลบัตรเครดิต/บัตรเดบิต จึงอยากมาแนะนำเพื่อนๆ เพื่อให้เพื่อนๆ ได้มีความสุขกับการใช้จ่าย ชอปปิ้ง เพิ่มความสุขแบบไม่มีขีดจำกัด ลองไปดูกันครับ ว่ามันคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

PORTOMY กระเป๋าใส่บัตรเครดิต/ กล่องใส่บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตร ATM | RFID Blocking ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลบัตร

กระเป๋าใส่บัตรเครดิต/ กล่องใส่บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตร ATM | RFID Blocking ป้องกันการขโมยข้อมูลบัตรเครดิต

ประโยชน์ของกล่องใส่บัตรเครดิต/บัตรเดบิต เพื่อป้องกันการขโมยข้อมูล

  • ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต (RFID Blocking)
  • ป้องกันความเสียหายของชิป RFID ที่เกิดจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
  • ป้องกันการหักงอของบัตรเครดิตที่เกิดจากการใช้กระเป๋าสตางค์ปกติ
  • ฟังชั่นการใช้งานที่หลากหลาย สามารถใส่บัตรเครดิต ธนบัตร และเศษเหรียญได้
  • ดีไซน์สวยงาม ทำจากอลูมิเนียมคุณภาพดี ใช้งานง่าย ขนาดพอดี พกพาสะดวก น้ำหนักเบา
  • ใส่บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตร ATM ได้มากถึง 6 ใบ

กระเป๋าใส่บัตรเครดิต/ กล่องใส่บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตร ATM | RFID Blocking ป้องกันการขโมยข้อมูลบัตรเครดิต

หากเพื่อนสนใจ อยากได้มาเพื่อป้องกันการขโมยข้อมูลบัตรเดรบิต/บัตรเดรบิต สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อได้ที่
LINE : @INTOMYSHOP
www.portomy.com